globe-image
th
down-chevron
เกร็ดความรู้สำหรับพาร์ทเนอร์Partner's Tips

คำถามที่พบบ่อย (Partner's FAQ)

Workmate TH Team
5 Mar 2020
แชร์บทความนี้
Facebook Icon
Twitter Icon
LinkedIn Icon

หากใครที่พบปัญหาเกี่ยวกับการทำงานกับ Workmate เรารวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาให้แล้วค่ะ

1. สนใจทำงานกับเวิร์คเมท ต้องทำอย่างไรบ้าง?

  • ง่ายนิดเดียวค่ะ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นจาก กูเกิ้ล เพลย์ หรือแอปสโตร์ แล้วลงทะเบียน กรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวให้ครบถ้วน ก็ใช้งานได้ทันทีค่ะ

2. มีค่าใช้จ่ายในการใช้งานแอปพลิเคชั่นเวิร์คเมทหรือไม่?

ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นค่ะ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนการสมัครสมัครสมชิก และลงทะเบียนให้เรียบร้อย ก็สามารถหางานใกล้บ้านได้เลย

3. จะเข้ามาสัมภาษณ์เพื่อทำงานกับเวิร์คเมทได้ที่ไหนบ้าง

  • สำนักงานของเวิร์คเมท มี 2 แห่ง คือ อโศก เทาวเวอร์ชั้น 11 และสำนักงานตรงข้ามตลาดเรือบิน บางปลา หากสะดวกที่ไหนให้เข้าไปอบรมการใช้แอปพลิเคชั่นที่นั่น และสำนักงานเปิดทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 09.00-18.00

4. เมื่อโหลดแอปพลิเคชั่นแล้ว ค้นหางานได้อย่างไร

  • ง่ายนิดเดียว หากสนใจงานไหนก็เพียงแค่กด "สมัครงาน" ที่คุณสนใจ และหลังจากนั้น เพียงแค่รอการยืนยันจากเวิร์คเมท และเซ็นสัญญาเพื่อเข้าทำงานก็เสร็จเรียบร้อยร้อย

5. จะทราบได้อย่างไรว่า ได้รับการคัดเลือกเข้าทำงาน

  • หากคุณได้รับการคัดเลือกเข้าทำงาน จะมีข้อความยืนยันในอแปพลิเคชั่นของเวิร์คเมท เพียงแค่กด " ยืนยัน" และเซ็นสัญญาเพื่อเริ่มงาน หลังจากก็รอไปทำงานได้เลย

6. งานในแอปพลิเคชั่นของเวิร์คเมท เป็นงานพาร์ทไทม์ หรืองานระยาว

  • ในแอปพลิเคชั่นของเวิร์คเมท มีงานหลากหลายให้เลือกตรงตามความต้องการของผู้สมัครงาน โดยมีตั้งแต่งาน 1 วัน 1 เดือน หรือระยะเวลานานกว่านั้น แต่ส่วนใหญ่งานจะมีเป็นสัปดาห์ โดยสามารถทำงานต่อเนื่องในที่ทำงานเดิม หรือสามารถย้ายไปทำงานที่อื่นๆได้ โดยไม่ต้องมีการสมัครใหม่

7. ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการสมัครงาน

  • เวิร์คเมท เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ที่ต้องการหางานใกล้บ้าน เพียงแค่คุณมีบัตรประชาชนมายืนยันในวันสัมภาษณ์ เพื่อนยันตัวตนก็สามารถสมัครงานกับเวิร์คเมทได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารที่ถ่ายสำเนาหรือรูปถ่ายใดๆทั้งสิ้น เพราะข้อมูลส่วนตัวและประวัติการทำงานทุกออย่างถูกบันทึกลงในระบบของเวิร์คเมทเรียบร้อยแล้ว

8. ถ้าไม่มีประสบการณ์ในการทำงานเลย สามารถทำงานกับเวิร์คเมทได้ไหม

  • การทำงานกับเวิร์คเมทง่ายมาก มีหรือไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อนเลยก็สามารถทำงานกับเวิร์คเมทได้ เพียงแค่เลือกสมัครในตำแหน่งที่ตรงกับรายละเอียดของงานที่ระบุไว้

9. ทำไมถึงต้องกดเข้า-ออกงานในแอป จำเป็นต้องทำทุกครั้งหรือไม่

  • การ "กดเข้างาน" และ" กดออกงาน" ในทุกๆวันทำงาน เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะระบบจะทำการบันทึกเวลาทำงานของคุณไว้ เพื่อทำการจ่ายเงินตามวันทำงานจริงตอนสิ้นเดือน ซึ่งการบันทึกดังกล่าวจะสำเร็จต่อเมื่อ คุณกดเข้า-ออกงานในสถานที่ทำงาน และในเวลาเท่านั้น ซึ่งหากคุณลืมกด จะมีผลต่อการได้้รับเงินล่าช้า หรือไม่ครบจำนวน เพราะระบบจะคำนวณยอดเงินตามที่ถูกบันทึกไว้ในการกดเข้า-ออกงานผ่านแอปเท่านั้น

10. หากลืมกดเข้า-ออกงาน ผ่านแอปต้องทำอย่างไร

  • หากลืมกด เข้า-ออกงานผ่านแอป หรือ กดเมื่ออยู่นอกสถานที่ทำงาน ให้คุณรีบทำการแจ้งปัญหาในไลน์ทันทีที่นึกขึ้นได้ Line: @workmate

11. หากจำเป็นต้องลางาน ต้องทำอย่างไร

  • หากมีความจำเป็นต้องลากิจ หรือ ลาป่วย สามารถแจ้งลางานได้ผ่านทาง Line: @workmate
    การลากิจ - จะสามารถลาได้เดือนละ 1 ครั้ง และจะต้องแจ้งลาก่อนเริ่มงานอย่างน้อย 7 วัน
    การลาป่วย - จะต้องแจ้งลางาน 2 ชั่วโมงก่อนการทำงาน และหากลาป่วยมากกว่า 1 วัน จะต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยัน รวมถึงจะต้องนำใบรับรองแพทย์มาให้หัวหน้างานในวันที่กลับมาทำงาน

12. ทำงานกับเวิร์คเมทแตกต่างจากการสมัครงาน และทำงานกับที่อื่นๆอย่างไร

  • เวิร์คเมทเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้งานสามารถหางานได้ง่าย สะดวก สร้างรายได้มากขึ้น งานที่คุณมองเห็นจะมาจากระบบของเวิร์คเมทที่เกิดจากการจับคู่งานที่ตรงกับประสบการณ์ของคุณที่ได้บันทึกไว้ในแอป รวมถึงงานที่มีสถานที่ทำงานอยู่ในละแวกเดียวกันกับที่อยู่ปัจจุบัน หากคุณทำงานจบไปแล้ว ก็สามารถเลือกกดสมัครงานใหม่ในแอปได้ทันที และเมื่อได้รับการยืนยันก็สามารถเริ่มงานใหม่ได้ทันที

13. มีงานอะไรบ้างบนแพลตฟอร์มของเวิร์คเมท

  • งานบนแพลตฟอร์มของเวิร์คเมทเป็นงานระดับปฏิบัติการในหลากหลายตำแหน่งให้เลือก เช่น พนักงานขาย พนักงานบริการลูกค้า คอลล์เซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ประสานงาน แอดมิน ธุรการ คีย์ข้อมูล พนักงานเสริ์ฟ พนักงานประจำร้านอาหาร พนักงานคลังสินค้า เป็นต้น

14. ระบบการจ่ายเงินของเวิร์คเมทเป็นอย่างไร

  • คุณจะได้รับเงินค่าแรงจาก Workmate โดยจำนวนเงินจะถูกอ้างอิงจาก Timesheet ของคุณในแอปพลิเคชัน และการอนุมัติจากหัวหน้างาน หรือ นายจ้างของคุณ ซึ่งค่าแรงจะถูกคำนวณจากการกดเข้า-ออกงานผ่านแอป และการเซ็นชื่อเข้าทำงาน รวมถึงค่าแรงจะถูกโอนเข้าไปยังเลขบัญชีธนาคารกสิกรที่ได้บันทึกไว้ในระบบแล้วเท่านั้น และพนักงานทุกคนจะต้องผ่านการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน และรูปถ่ายบัตรในแอปแล้วเท่านั้น

    ระบบจะมีการจ่ายค่าแรง 2 แบบ คือ
    1. รายเดือน - ระบบจะทำการจ่ายเงินค่าแรงในวันสิ้นเดือน ซึ่งยอดเงินค่าแรงจะถูกคำนวณตั้งแต่วันที่ 26 ของเดือนก่อน ถึงวันที่ 25 ของเดือนปัจจุบัน หากวันสิ้นเดือนตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ระบบจะทำจ่ายในวันศุกร์ก่อนสิ้นเดือน
    2. รายสัปดาห์ - คุณจะได้รับเงินค่าแรงในวันศุกร์ถัดไป (หากงานจบก่อนวันอาทิตย์ และได้รับการอนุมัติ Timesheet ในวันจันทร์ตอนเย็น)

15. ถ้าไม่มีบัญชีธนาคารกสิกรไทย ใช้บัญชีขอธนาคารอื่นในการรับค่าแรงได้หรือไม่

  • ได้ค่ะ สามารถใช้ธนาคารอื่นในการรับค่าแรงได้ โดยแอปเวิร์คเมทจะมีรายชื่อธนาคารที่ใช้รับค่าแรงได้ระบุไว้ในแอป และเพื่อป้องกันปัญหาไม่ได้รับค่าแรง โปรดตรวจสอบข้อมูลที่ใส่ให้ถูกต้องด้วยนะคะ

16. เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ ต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่หรือไม่

  • ไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีใหม่ เพียงเข้าไปแก้ไขเบอร์โทรใหม่ในโปรไฟล์ และต้องใช้เบอร์โทรใหม่ในการเข้าสู่ระบบ

17. หากลืมรหัสผ่านเข้าแอป ต้องทำอย่างไร?

  • ให้กดที่ "ลืมรหัสผ่าน?" ด้านล่างที่พิมพ์รหัสผ่าน หลังจากนั้นระบบจะส่งรหัสผ่านใหม่ผ่าน SMS เข้าไปยังเบอร์โืรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ ให้นำรหัสผ่านนั้นมาเข้าสู่ระบบ

18. สถานะ 'ไม่แสดงตน' คืออะไร แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อถูกใส่สถานะเป็น ‘ไม่แสดงตน’

  • หากไม่มาทำงานโดยไม่แจ้งลากิจหรือลาป่วยภายในเวลาที่กำหนดจะถูกใส่สถานะเป็น ‘ไม่แสดงตน’ และหากถูกใส่สถานะ ‘ไม่แสดงตน’ 2 ครั้ง จะถูกพักงานจาก Workmate ซึ่งจะถูกให้ออกจากงานนั้นๆ และไม่สามารถเข้าระบบได้ รวมถึงการมาทำงานไม่ครบกำหนด ในวันสิ้นสุดงาน ก็จะถูกใส่สถานะ ‘ไม่แสดงตน’

หากมีข้อสงสัยใดๆนอกเหนือจากนี้สามารถ พูดคุยกับเราได้ที่ Line : @workmate

บทความสำหรับ:เกร็ดความรู้สำหรับพาร์ทเนอร์Partner's Tips
แชร์บทความนี้
Facebook Icon
Twitter Icon
LinkedIn Icon
Subscribe to our Blog
We will send you updates on new, relevant articles that can help your business!